Thursday, August 25, 2016

รุ่นพี่ควรอ่าน รุ่นน้องควรรู้ #1 : ประโยคฮิต




(แปะเพลงก่อน 1 เพลง นี่มั่นใจมาก ว่าสายกิจกรรมเดาถูกแน่นอนว่าเพลงอะไร >_<)


วาระเวียนบรรจบครบอีก 1 ปี สำหรับ "เฟรชชี่" หน้าใหม่ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่รั้วสถาบันใหม่ ปรับตัวกับสังคมและสภาพแวดล้อมใหม่ๆ โดยการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก “รุ่นพี่ผู้น่ารัก” ซึ่งล้างคอรอจัดกิจกรรมให้น้องๆ โดยอาศัยประสบการณ์จากที่เคยเป็นผู้รับมาเมื่อปีที่แล้วเป็นหลัก ซึ่งแต่ละอย่าง แต่ละพฤติกรรม ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้ “รักกัน” จริงมั้ย

แต่จากใจจริงนะ คณะเราไม่มีว้าก ไม่มีห้องเชียร์ ตอนปี 1 เรากับเพื่อนยังเกลียดกันแทบตาย
(ตอนนี้ก็ยังเกลียดนะ แต่ก็เฟคว่ารักกันอยู่) ซึ่งทั้งหมดที่เขียนมานี้ ก็สรุปรวมจากประสบการณ์หลากหลายของตัวเอง เพื่อนๆ รุ่นน้อง ผสมๆกัน จะได้ไม่ต้องมาปรึกษากันทุกปีตั้งแต่กูอายุ 20 จนจะ 30 ละ ก็ยังมาถามกันอยู่ อ้ะ! งั้นเขียนเก็บไว้เลยละกัน  ใครมาถามอีกจะได้ส่งให้ทีเดียว


“ทำไมไม่ไหว้พี่”
เจอคำถามแบบนี้ ไม่ต้องถามหาความเคารพต่อไป คนนี้ใคร? แค่หัวโล้นไม่เรียกพระนะ เป็นพ่อแม่หน้าก็ไม่เหมือนกู ครูก็ไม่ใช่ บุญคุณอะไรก็ไม่มีต่อกัน มาสั่งให้ไหว้ซะงั้น บ้าป่าวว!! ขาดความอบอุ่นเหรอ? น้องหัวกบฏเกลียดแต่แรกเห็นแน่นอน เจอรุ่นพี่แบบนี้ไม่ต้องคิดมาก เขาแค่ต้องการแสดงแสนยานุภาพโดยการสั่ง (Order) โดยเอาอาวุโส (Seniority) และประเพณีไทย (Tradition) มาอ้างไปงั้น น้องก็เล่นละครฉากใหญ่ทำท่ารู้สึกผิดตกใจ แล้วปรี่เข้าไปยกมือไหว้สวยๆใส่เขาหนึ่งที ให้พี่สบายใจ เพราะถ้าขาดพวกน้องไป โพรงคอนกรีตยังมีคนไปไหว้มากกว่าเขาด้วยซ้ำ คิดเสียว่าสงสารพี่เขาก็แล้วกันนะน้องเอ๊ย


รออะไรล่ะ ไหว้พี่สิน้อง!!
-พี่คอน กรีตเอง ปี3-

“ป้ายชื่อไปไหน” 
เสียงตะโกนจากรุ่นพี่ผู้คุ้มกฎจากอีกฝั่งของตลาดนัด ที่ทำให้รุ่นน้องที่กำลังขอน้ำจิ้มไก่ทอดเพิ่มจากแม่ค้าต้องสะดุ้งเฮือก งานนี้ถ้าเจอรุ่นน้องสายอ่อน ก็จะตอบจ๋อยๆไปว่า "ขอโทษค่ะ / ลืมครับ" แต่หัวกบฏขอแนะนำว่าให้ถือโอกาสนี้ตีสนิทไปเลย ขอโทษเป็นมารยาทสักหนึ่งที แล้วชวนคุยต่อเลย ลองถามดูก็ได้ว่าให้แขวนป้ายชื่อทำไม ใครเป็นคนคิด ตอนพี่เป็นน้องพี่ทำไง แล้วปิดท้ายด้วยไก่ใต้โต๊ะสักไม้นึง ก็จบวันได้สวยๆแล้ว แต่ความจริงหัวกบฏไม่มีปัญหากับการแขวนป้ายชื่อหรอกนะ ถ้าเข้าใจว่าเป็นกิจกรรมที่ทำเพื่อให้รู้จักกันเร็วขึ้นซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่รุ่นพี่มักไม่ค่อยตอบแบบนี้ เอะอะโบ้ยประเพณี (Tradition) ตลอด  ซึ่งปัญหาของการแขวนป้ายชื่อมันอยู่ที่ความพอดี ที่ต้องตั้งคำถามหน่อยว่า จำเป็นมั้ยที่ต้องให้แขวนป้าย 24 ชั่วโมง เอาแค่เฉพาะเวลาราชการได้ป้ะ!? โอเค..เรียนคณะเดียวกันควรรู้ชื่อกัน แต่คนอื่นอย่างพ่อค้าทุเรียนที่ตลาดเงี้ย จำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอ!!!? ขอความพอดีหน่อยได้มั้ยพี่


อยากให้พ่อค้าแขวนป้ายชื่อให้จุง

“ทำไมวันนี้มาไม่ครบ” 
เสียงดุดันเหี้ยมเกรียมเคร่งเครียด อันเป็นคำถามเริ่มต้นกิจกรรมที่จะปลุกความเป็นหนึ่งเดียว (Unity) และจิตวิญญาณในตัวน้องๆ (Spirit) ที่พร้อมจะพังทันทีถ้ารุ่นพี่คุมเกมไม่เป็น การตั้งคำถามเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเป็นไปด้วยความอยากรู้ ต้องการคำตอบ  และพร้อมรับฟังเหตุผล  ไม่ใช่ถามเพื่อหาเรื่องและมีคำตอบในใจที่ฟังไม่ขึ้นอยู่แล้ว น้องหัวกบฏมักดูออกและไม่ชอบพฤติกรรมรุ่นพี่ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แสดงแสนยานุภาพเบอร์นี้  สิ่งที่รุ่นพี่ควรเข้าใจ แต่มีน้อยคนที่เข้าใจคือ ยุคสมัยนี้ ไม่เหมือนสมัยก่อนที่พ่อแม่ไม่มีเงินส่งก็ไม่ต้องเรียน แต่เด็กหลายคนดิ้นรนหาเงินส่งเสียตัวเองเรียนเอง ดังนั้น น้องบางคนไม่ได้มีชีวิตแค่เรียน เรียน เรียน อย่างเดียว หลายคนฐานะทางบ้านไม่ดี ต้องทำงานไปด้วย ก็ต้องโชว์กึ๋นแยกให้ออกว่าระหว่าง “เงิน” กับ “ความสามัคคี” อะไรจะทำให้ชีวิตอยู่รอดได้มากกว่ากัน  ไม่ใช่เอะอะอ้าง “รุ่น” อ้าง “เพื่อน” อ้าง “คณะ” อ้าง “สถาบัน” ซึ่งข้ออ้างพวกนี้แหละ ที่ทำให้ “ห้องเชียร์” กลายเป็นห้องแห่งความลับที่น่ารังเกียจสยดสยอง ทั้งที่ความจริงแล้ว “ห้องเชียร์” หากตกอยู่ในความดูแลของรุ่นพี่ที่ “เล่นเป็น” จะมีประโยชน์ในการฝึกฝน เพื่อปรับเปลี่ยนคนให้มีบุคลิกนิสัยตรงกับสายวิชาชีพที่เรียน ซึ่งก็คงบอกหรือการันตีไม่ได้ว่ามีสถาบันไหนบ้างที่ “เล่นเป็น” เพราะกฎห้องเชียร์เขาเคร่งครัดนักหนา แต่ละที่เขาสั่งกันไว้ว่าห้ามเผยแพร่ไปข้างนอก เพราะงั้นน้องหัวกบฏก็อย่าเพิ่งอคตินะ ลองเข้าร่วม แล้วเปิดใจให้เต็มที่ก่อน แล้วถ้าชอบไม่ชอบจะยังไงก็ตามใจเลย


เข้ามาเถอะรอน!! ทุกคนรอนายอยู่
-น้องแฮ รี่เอง ปี1

“ถ้ามีคนนึงมาสาย ทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน” 
ฮัลโหลลลล นี่ยังอยู่โรงเรียนประถมกันเหรอ เคยเจ็บปวดกับ “การโดนตีทั้งห้อง” ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลยมั้ย? เป็นเด็กดีมาตลอด แล้วทำไมต้องโดนตีด้วยด้วย อย่ามาอ้างความรับผิดชอบร่วมกัน (Unity) ไร้สาระสิ้นดี วิธีแบบนี้ถามหน่อยว่ามีใครได้ประโยชน์บ้าง ชีวิตทุกคนต้องมีธุระฉุกเฉินที่เลี่ยงไม่ได้มั้ย? โลกความจริงมีโทรศัพท์นะ ฟังเหตุผลด้วยได้ป้ะ? แบบนี้เท่ากับโยนบาปและความเกลียดชังของทุกคนไปที่คนต้นเรื่องคนเดียวเลยนะ การโดนลงโทษร่วมกัน มันคนละเรื่องกับความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อันนี้รุ่นพี่ต้องแยกให้ออก อย่าเอาเหตุผล Non-Sense แบบนี้มาบอกน้องหัวกบฏ ให้ต้องหัวเราะในใจเลย เจอแบบนี้ถ้าน้องหัวกบฏไม่ใช่คนต้นเรื่อง รับรองโดนป่วนแน่นอน เอาสิ ไหนๆก็จะลงโทษกันทั้งหมดแล้ว โดนมากโดนน้อยต่างกันตรงไหน ถ้าไม่ทำแล้วจะยังไง เจอแบบนี้รุ่นพี่ทำไงดีล่ะ หาเหตุผลดีๆมาตอบน้องให้ได้นะ


เกลียดกันตั้งแต่ป.3 แน่นอน



“ถ้าทำไม่ได้ ไม่นับรุ่นนะ” 
คำพูดส่งท้ายสายโหด ก่อนจะเข้าสู่หมวดปลอบประโลมหากกิจกรรมสำเร็จ แต่น้องหัวกบฏขอรู้เงื่อนไขที่พี่จะให้ทำก่อนได้ป้ะ คือไม่มีปัญหานะถ้าไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่กระทบต่อสุขภาพร่างกาย ไม่ขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เต็มที่เลยพี่ แต่บอกตรงๆกิจกรรมรับรุ่นลักษณะนี้ ถ้าซวยไปเจอรุ่นพี่ที่ควบคุมเป็นคนคิดน้อย แนะนำให้น้องเตรียมถอยได้เลยจ้า เพราะเขาจะให้น้องทำสิ่งที่ยากลำบาก ที่ไม่มีคนปกติเขาทำกัน ที่ถ้าทำแล้วต้องลำบากใจสุดๆ  โดยอ้าง “ใจ” เป็นที่ตั้ง โดยที่ไม่สนใจสภาพแวดล้อมอย่างอื่นเลย เอะอะอะไร ใจๆ ไว้ก่อน เคยได้ยินมั้ยเสียงเชียร์ที่ร้องว่า สปิริต สปิริต สปิริต!! สปิริต สปิริต สปิริต!! แบบนั้นแหละ อย่าลืมว่าพี่ที่คุมเกม อายุห่างจากเราแค่ไม่กี่ปี ประสบการณ์ชีวิตคงไม่หนีกันมาก ความคึกคะนองมีมากกว่าความรอบคอบปลอดภัย ถ้าน้องไม่ทำหรือทำไม่ได้ ก็แค่ไม่นับรุ่นเท่านั้น (แต่เรียนจบได้นะ) ก็เลือกเอาเองแล้วกัน ถ้ามันอันตรายมากๆ ได้รุ่นพร้อมโลง ไม่เอาด้วยหรอกนะ


สปิริต สปิริต สปิริต!!!


คร่าวๆก็ประมาณนี้แหละ.. ถ้าจะสรุปรวบจากทั้งหมดเลยก็คือ รุ่นพี่ไม่ต้องแสดงแสนยานุภาพ พลังอำนาจอะไรมาก อายุห่างกันแค่ไม่กี่ปี ทำตัวตามสบาย ตามปกติไปแหละ เดี๋ยวความรักความเคารพมันก็เกิดเอง ทีนี้จะสั่งสอนจะพูดอะไรไป มันก็มีน้ำหนักทั้งนั้น เพราะความสัมพันธ์มันเริ่มจากความรัก มันดีกว่าความสัมพันธ์ที่เริ่มจากความเกลียดเสมอแหละ

** ตอนต่อไป น่าจะเป็นเรื่องการดีลกับ "พี่ว้าก" มั้ง เดี๋ยวรอว่างก่อน ค่อยเขียนละกัลล์

No comments:

Post a Comment